การเล่น hero แต่ละประเภท for teamโดยปกติแล้วตัวละครทั้งหมดใน Dota นั้นจะแบ่งออกเป็นสามสายหลักคือ Str Agi Int โดยทั้งสามสายนี้สามารถแบ่งแยกออกไปตามหน้าที่ของฮีโร่ออกเป็น 3 ประเภทหลักและแต่ละประเภทก็สามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยดังนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าต้องการให้ฮีโร่เราทำหน้าที่แบบใด
Quote
ประเภทที่ 1 คือพวก Tanker หน้าที่หลักของฮีโร่ประเภทนี้คือล่อลวงให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาโจมตีตัวเรา โดยส่วนมากฮีโร่เหล่านี้อาจจะมี Hp และ Armor เป็นจำนวนมากเพื่อไว้รองรับการโจมตีจากฝั่งตรงข้ามให้ได้มากที่สุดและนานที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Status ของฮีโร่ที่สนับสนุนสายนี้คือสาย Str และหน้าที่รองลงมาคือการใช้สกิลต่างๆที่มีเพื่อช่วยทีมหรือสร้างโอกาสให้กับทีมในการใช้สกิลหรือโจมตีฝ่ายตรงข้าม
- Tanker + Disable Or Stunner เช่น Tide Hunter, Dragon Knight, Centaur Warchief
- Tanker + Damage Dealer เช่น Skelton King, Sven
- Tanker + Supporter เช่น Omniknight, Treant Protector
- Tanker + Chaser เช่น Night Stalker, Lycanthrope
ประเภทที่ 2 คือพวก Damage Dealer หน้าที่หลักของฮีโร่ประเภทนี้คือสร้างความเสียหายต่อฝ่ายตรงข้ามด้วยการโจมตีปกติให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้นที่สุด สกิลส่วนมากของฮีโร่ประเภทนี้จะมีสกิลประเภท Passive(สกิลติดตัวแบบกดใช้ไม่ได้) ที่ช่วยในการโจมตีปกติ เช่น critical, stun, เพิ่ม attackspeedหรือdamage
- Damage Dealer ระยะใกล้ เช่น Phantom Assasin, Bounty Hunter
- Damage Dealer ระยะไกล เช่น Razor, Sniper, Bone
ประเภทที่ 3 คือพวกนักเวท หน้าที่หลักของฮีโร่ประเภทนี้คือใช้เวทที่มีอยู่ให้มากที่สุดทั้งในการโจมตี(Nuker) สกัดกั้น(Disable-Stunner) หรือสนับสนุน(Supporter) เพื่อสร้างความปั่นป่วนกับทีมตรงข้ามให้มากที่สุด
- นักเวท Nuker เช่น Lich, Slayer, Zeus
- นักเวท Supporter เช่น Keeper of the Light
- นักเวท Disable-Stunner เช่น Demon Witch, Shadow Shaman, Earthshaker
- นักเวท Pusher เช่น Prophet, Holy Knight, Necro'lic
ประเภทของฮีโร่ทั้งหมดสามารถดูได้จาก
http://www.thaicybergames.com/webboard/index.php/topic,27367.0.htmlที่นี้เมื่อเราทราบถึงหน้าที่ของฮีโร่แต่ละประเภทแล้ว เรามาลองดูปัญหาที่เกิดจากการที่ผู้เล่นๆผิดหน้าที่ของตัวละครนั้นๆดังนี้
- ผู้เล่นบางท่านอาจจะเล่นตัวละครประเภทนักเวทมามากเกินไป เมื่อต้องมาเล่นตัวละครที่เป็น Tanker ก็อาจทำให้คุณจำวิธีการเล่นจากนักเวทมาใช้กับตัว Tanker แทน ดังเช่น คุณเล่น Tide Hunter แต่เมื่อถึงเวลา All คุณกลับไม่ยอมวิ่งออกไป tank และหาโอกาสใช้ Stun ต่อเพื่อเปิดโอกาสให้ฝั่งเราโจมตีทั้งๆที่คุณมีของบวกเลือดมากที่สุดในทีม แต่คุณกลับใช้วิธีการแบบนักเวทคือ รอจังหวะให้มันใช้สกิลใส่เพื่อนก่อนแล้วค่อยตามไปยัดสกิลใส่จากนั้นก็วิ่งออกมารอคูลดาวน์ของสกิลแล้วค่อยวิ่งกลับเข้าสนามรบไปยัดสกิลอีกที ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเพื่อนร่วมทีมในการเล่นของคุณเพียงคนเดียว
- ผู้เล่นบางท่านอาจจะเล่นตัวละครประเภท Tanker มามากเกินไป เมื่อต้องมาเล่นตัวละครที่เป็นนักเวทก็อาจทำให้คุณจำวิธีการเล่นจาก Tanker มาใช้กับตัวนักเวทแทน ดังเช่น คุณเล่น Zeus แต่เมื่อถึงเวลา All คุณกลับไม่ยอมรอให้พวก Tanker ทำหน้าที่ก่อนแล้วค่อยหาโอกาสใช้เวทลอบโจมตีจากด้านหลังของตัว Tanker แต่คุณกลับใช้วิธีการแบบ Tanker คือ คุณจะวิ่งนำหน้าเพื่อนทั้งหมดแล้วใช้สกิลโจมตีใส่ฝั่งตรงข้ามทันทีทำให้อีกฝั่งรุมยัดสกิลใส่คุณจนทำให้คุณตายแล้วก็กลายเป็นตัวถ่วงของทีม หรือตัวแจกตัง(ATM) นั้นเอง
ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากการที่คุณไม่รู้หน้าที่ของฮีโร่ที่คุณเล่นอยู่ หรือการออกไอเท็มที่เหมาะสม หรือการอ่านเกมที่ผิดพลาด ซึ่งผมจะเสนอแนวทางการแก้ปัญหาดังนี้
ประเภทที่ 1 Tanker
คุณสมบัติของตัวแท็งค์ที่ควรรู้
1. ตัวแท็งค์ส่วนมากมักเป็นสาย Str ก็เพราะสายนี้เมื่อใส่ของ+ Str แล้วจะได้ดาเมจเพิ่มไปด้วยและด้วย status พื้นฐานทำให้สายนี้มีเลือดมากกว่าทุกสาย จึงสามารถทนการโจมตีได้มากกว่าสายอื่นเป็นพิเศษ
2. ตัว Str ทุกตัวไม่ได้หมายความว่าเป็นตัวแท็งค์เสมอ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับไอเท็มที่คุณใส่และวิธีการเล่นของคุณบวกกับสกิลที่คุณอัพ เช่น
- Earth Shaker คนส่วนมากมักใส่ไอเท็มที่ไว้เพิ่มมานา จึงทำให้ตัวละครตัวนี้กลายเป็นพวกนักเวทไปในที่สุด และไม่สามารถรับบทเป็นตัวแท็งค์ได้
- Sven บางครั้งผู้เล่นก็ใส่ไอเท็ม Battle Fury พร้อมกับ Mask Of Madness แล้วไอเท็มบวกความแรงอื่นๆ จนทำให้ตัวนี้กลายเป็นพวก Damage Dealer ไปในที่สุด จึงไม่มีความสามารถที่จะแท็งค์ได้เช่นกัน
- Doom ถ้าใส่คฑาฟ้าแล้วตามด้วย refresh orb ก็มักจะเป็นพวกนักเวทเช่นกันจึงบางครั้งก็แท็งค์ไม่ได้ แต่ถ้าใส่ไอเท็มประเภท Hearth หรือของบวกเลือดอื่นก็จะสามารถเป็นตัวแท็งค์ได้
จากตัวอย่างที่กล่าวไปทั้งหมดก็จะเห็นได้ว่า ไอเท็มที่คุณเลือกที่จะใส่และสกิลที่คุณเลือกที่จะอัพทั้งหมดเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดหน้าที่ของฮีโร่
3. ในบางครั้งตัวยิงไกล(ทั้งนักเวทและ Damage Dealer) หรือพวกตัวประชิด(Damage Dealer) ก็อาจต้องทำหน้าที่เป็นตัวแท็งค์ได้โดยไม่คาดฝันเนื่องจาก
- ศัตรูเห็นเราเป็นจุดอ่อน จึงทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนการวิธีการเล่นและไอเท็มที่ใส่ ซึ่งจะกล่าวในหัวข้อหลังจากนี้
- ในทีมเราขาดตัวแท็งค์ ทำให้เราอาจต้องเป็นตัวแท็งค์แทน
4. ตัวแท็งค์ต้องมีความโดดเด่นในการดึงดูดความสนใจของศัตรู เช่น
- มีสกิลโจมตีที่สามารถสกัดคู่ต่อสู้(สตัน, เวทที่เป็น AOE) เช่น TideHunter
- มีความรุนแรงในการโจมตีแบบปกติสูง เช่น Sven, Skelton King ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อพวกเปราะบางของศัตรูจึงทำให้ศัตรูโจมตีเราก่อน
5. ตัวแท็งค์หลายตัวมักเป็นตัวเปิดจังหวะของการประทะ จึงต้องสามารถอ่านเกมได้อย่างเด็ดขาดและแม่นยำ(ซึ่งจะกล่าวในหัวข้อหลังจากนี้) เช่น Tide Hunter, Skelton King
มุมมองของศัตรูที่ทำให้คุณตกอยู่ในสภาพของตัวแท็งค์
1. เลือดคุณน้อยเกินไป
2. คุณคือตัวสำคัญของเกม เช่น คุณเป็นตัวเลทเกม หรือคุณเป็นตัว Disable-Stunner ที่สำคัญของทีมในการตัดจังหวะคอมโบของศัตรู
3. คุณเป็น Nuker ที่ทำให้อีกฝั่งตายได้ภายในคอมโบเดียว ซึ่งศัตรูก็จำเป็นต้องหยุดยั้งคุณก่อนที่คุณจะฆ่าตัวคีย์สำคัญของทีมเขาเองเช่นกัน
4. คุณตายเป็นจำนวนมาก จนทำให้ศัตรูมีความเชื่อว่าถ้าเขาโจมตีคุณก็มักได้เงินจากตุณอย่างแน่นอน
5. คุณมีทักษะการเล่นที่กวนเท้าฝั่งศัตรูมากเกินไปจนทำให้เกิดความรำคาญ เช่น เล่น bone ตอนต้นเกมชอบใช้ธนูไฟตอดศัตรูมากๆ หรือเล่น Nerubian Weaver แล้วชอบหายตัวไปพุ่งชนศัตรูจนทำให้เกิดความรำคาญ ก็ทำให้คุณมีโอกาสเป็นเป้าหมายแรกๆเหมือนกัน
6. คุณมีแต้มฆ่ามากสุดในทีม จนทำให้ศัตรูต้องหยุดยั้งคุณเพื่อรักษาชีวิตไว้
แนวทางการเล่นและวิธีการเล่นบวกกับวิธีการอ่านเกมของ Tanker
1. เวลาที่จะ All หรือประทะกันตัวแท้งต้องอยู่ข้างหน้าสุดเสมอ เพื่อที่จะให้เรามีโอกาสใช้สกิลเพื่อเปิดจังหวะให้เพื่อนก่อนเป็นคนแรกและรับดาเมจเป็นคนแรกแทนเพื่อนที่ต้องการปกป้อง เราไม่ควรที่จะหลบหลังเพื่อน(เช่นตัวยิงไกล) เนื่องจากการที่อยู่หลังแล้วเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้สกิลจะทำให้เราต้องเสียเวลาในการวิ่งไปใช้สกิล ยิ่งถ้าเราคิดจะใช้สกิลใส่พวกตัวยิงไกล(ตัวที่อยู่หลังสุดของฝั่งศัตรู)ยิ่งต้องเสียเวลาในการวิ่งเพิ่มขึ้นอีก จนบางครั้งเพื่อนเราอาจโดนโจมตีจนตายแล้ว เราพึ่งมาใช้สกิลก็ไม่มีความหมายเพราะเราไม่สามารถรักษาชีวิตเพื่อนได้ และถือเป็นการเล่นผิดหน้าที่ของตัวละครนั้นๆ
2. เมื่อถึงเวลา All ต้องพยายามใช้สกิลที่มีอยู่ของตัวเราเปิดจังหวะให้ได้ก่อนศัตรูเสมอ(จำไว้ว่าเปิดก่อนมักได้เปรียบ) ซึ่งมันจะทำให้เพื่อนสามารถใช้สกิลหรือ สานต่อการโจมตีต่อจากตัวเรา จนทำให้ศัตรูเสียหลักหรือสามารถฆ่าตัว key สำคัญของศัตรูหรือทำให้ศัตรูไม่สามารถใช้คอมโบสกิลได้ ก็จะทำให้การ All ครั้งนั้น มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
3. เลือกใช้ไอเท็มให้เหมาะกับสถานการณ์(ซึ่งจะกล่าวในหัวข้อถัดไป) เช่น ตัวแท็งค์บางตัวออกไอเท็มพวก Battle Fury หรือของพวกเพิ่มดาเมจ ทั้งๆที่อีกทีม มีแต่พวก Nuker จึงทำให้ไม่สามารถแท็งค์ได้
4. เลือกเหยื่อให้เป็น และใช้สกิลใส่เพื่อบ่งบอกให้เพื่อนร่วมทีมรับรู้ถึงเหยื่อที่เราเลือก โดยมีลำดับความสำคัญดังนี้
- ถ้าทีมของเรามีแต่ตัวยิงไกล แล้วเราเป็นตัวแท้งค์เพียงตัวเดียวให้พยายามเลือกเหยื่อตัวที่ใกล้มือที่สุด เนื่องจากตัวละครเราอาจจะวิ่งฝ่าวงล้อมศัตรูไปยังกองหลังของศัตรูได้ แต่เพื่อนร่วมทีมเราจะฝ่าไปในดงล้อมศัตรูไม่ไหว เนื่องจากตัวยิงไกลฝั่งเราก็จำเป็นต้องรักษาระยะการโจมตีไว้ด้วยเพื่อไม่ให้โดนสกิลจากศัตรู ซึ่งผมจะกล่าวไว้ในหัวข้อของวิธีการเล่นพวก Damage Dealer กับ วิธีการเล่นพวกนักเวทในภายหลัง
- ถ้าทีมของเราส่วนมากมีแต่พวกตัวประชิด(อาจจะเป็นพวก Damage Dealer) ให้เลือกเหยื่อที่เลือดน้อยที่สุดก่อนหรือตัวที่สามารถทำให้ทีมเราตกอยู่ในสภาพอันตรายมากที่สุดก่อนเช่น Obsidian Destroyer
5. การอัพสกิล เราต้องอัพสกิลให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ใช้ว่าต้องอัพตามสูตรสำเร็จ เช่น
- Sand King เมื่อเจอทีมฝั่งตรงข้ามที่เป็นพวก Nuker จำนวนมาก และทีมเราก็ไม่มีตัว Tank ก็อาจไม่ต้องอัพสกิล 3 เพื่อเอาไว้ฟาร์มแต่ให้อัพมาลง Status ทั้งหมดเพื่อความอยู่รอด
คำถาม: +2 status นี้สำคัญมากกว่าสกิลที่ใช้ farm เหรอครับ
คำตอบ: - ในสถานการณ์ที่อีกฝั่งมี Nuker มากๆนี้ +2 status จำเป็นมากครับแล้วบวกกับของที่ใส่อีกไม่ว่าจะเป็น bracer หรือ bkb หรือ vangaurd ซึ่งโดยรวมแล้วคุณจะมีโอกาสรอดมากกว่าอัพสกิล 3 แน่นอน ลองคิดดูครับถ้าคุณอัพสกิล 3 ในช่วงต้นเกมคุณมีโอกาสตายสูงมาก เงินที่เกิดจากการฟาร์มก็จะเอาไปแจกศัตรูเปล่าๆ
- จากประสบการณ์ของผม ผมเคยอัพแต่สกิล 1 และ status กับอัลติ สกิล 2 กับ 3 ไม่อัพก็สามารถแท็งค์ให้ทีมได้ไม่แพ้ตัวอื่น ถึงแม้ช่วงต้นเกม อัลติผมจะโดนสกัดไปแต่ก็สามารถช่วยเซฟชีวิตเพื่อนได้เพราะทุกสกิลมาลงที่ตัวผมหมดเลย แต่ผมก็ไม่ตายเพราะมี 5 bracer กับ status รองรับไว้ ส่วนปลายเกม ผมก็ได้ bkb, hearth เนื่องจากการที่ผมแถบไม่ตายเลย บวกกับไอเท็มต้นเกมและ Status จึงทำให้ฟาร์มได้ดีไม่แพ้พวกอัพสกิล 3 เหมือนกัน
6. ให้พยายามปกป้องตัวคีย์สำคัญของทีมเราไว้ และอย่าลงกลต่อแผนล่วงข้าศึกฝั่งตรงข้าม เช่น
- เหยื่อที่เราเลือกเกิดวิ่งหนีไปเพื่อที่จะให้เราวิ่งตามไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมของศัตรูได้มาทะลวงตัวคีย์สำคัญของทีมเรา ซึ่งถ้าเจอแผนที่มีรูปแบบเช่นนี้ ให้ตัวเราปล่อยเหยื่อนั้นไปแล้วหันมาปกป้องเพื่อนร่วมทีมไว้แทนจะได้เปรียบกว่า แต่ถ้าเหยื่อตัวนั้นใกล้ตายมากแล้วคุณอาจกำลังรอคูลดาวน์ที่ไม่นานก็ให้วิ่งไปฆ่าเหยื่อตัวนั้นจะคุ้มกว่า แต่ต้องใช้เวลาที่รวดเร็ว(ยิ่งใช้เวลานานมากเท่าไร ทีมคุณก็ยิ่งมีอันตรายมากเท่านั้น)
7. ตัวแท็งค์ที่ดีต้องรู้ว่าจังหวะใดควรฟาร์ม จังหวะใดควรจะพาทีมไปไล่ฆ่า หรือจังหวะใดควรพาทีมไป All โดยมีวิธีการดูดังนี้
- ถ้าทีมเรามีพวก Nuker อยู่เป็นจำนวนมากก็ให้พยายาม All ตั้งแต่ต้นเกมเพื่อสร้างความได้เปรียบ จนกระทั่งเมื่อเราสั่ง All แล้วการประทะเริ่มล้มเหลวก้ให้ฟาร์มเพื่อเอาไอเท็มมาแก้เกม
- ถ้าทีมเรามีพวกเลทเกมค่อนข้างเยอะและฝั่งตรงข้ามมีพวก Nuker อยู่เยอะ ในตอนแรกทีมจะไม่มีความพร้อมในการ All ก็ให้พยายามฟาร์มเอาไอเท็มแก้เกม
เช่น Bkb เป็นต้น แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ในลักษณะนี้ ทุกครั้งของการกั้นบ้านหรือการ All ตัวเราจำเป็นต้องอยู่กับทีมทุกครั้งเพราะเราเป็นตัวแปรสำคัญของทีม ไม่ใช่ว่าให้พวกเลทเกมมากั้นบ้านเว้นแต่เราใกล้ได้ไอเท็มที่ใช้แก้เกมมาแล้ว
8. Tower หรือ Barrack ในช่วงต้นเกมถ้าโดนกดดันมากๆก็ปล่อยให้โดนทำลายได้ เพื่อที่จะได้ให้ตัวสำคัญออกไอเท็มแก้เกม อย่าพยายามนำทีมไปตายเพื่อรักษาบ้าน
9. การฟาร์มให้ฟาร์มอย่างมีเป้าหมาย ทุกครั้งที่เราฟาร์มต้องพยายามคิดที่จะออกไอเท็มแก้เกม ไม่ใช่ว่าฟาร์มไปเรื่อยๆแล้วออกไอเท็มเพิ่มเลือดหรือพวกไอเท็ม ที่เพิ่มความอยู่รอดสำหรับตัวเราคนเดียว เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้ตัวเลทเกมของอีกฝั่งเกิดแล้วสุดท้ายทีมก็จะสู้ไม่ได้ คราวนี้ตัวคุณก็จะเปรียบเสมือนกระสอบทราย เคลื่อนที่ได้รอให้มันมายำอย่างเดียว
10. ไอเท็มที่ตัว Tank ออกนั้นเมื่อได้ความอยู่รอดที่พอตัวแล้วก็ให้พิจารณาถึงทีมเราเป็นสำคัญ ดังเช่น
- กรณีที่ทีมเราขาดพวก Disable-Stunner ให้เราออกไอเท็มเป็นสาย Support แทนแล้วให้เพื่อนฆ่า เช่น เกราะน้ำแข็ง เกราะกระดูก เสกไก่ cyclone
- กรณีที่ทีมเรามีแต่พวก Nuker แต่ขาดคนทำดาเมจก็ให้ออกไอเท็มพวก Battle Fury หรือของแรงอืนๆ หรือถ้าอีกทีมมีตัวเกราะหนามากๆก็ให้ออก deso เป็นต้น
- ถ้าทีมเรามีตัวเลทเกมเยอะหรือตัวคีย์สำคัญที่ต้องปกป้องอยู่จำนวนมาก ก็ให้ซื้อ Ward มาช่วยเซฟชีวิตเพื่อนเอาไว้ และสามารถเอาไว้ตุ๋ยศัตรูได้
11. การแท็งค์ที่ดีอย่ารับดาเมจจนตาย ให้ดูระดับเลือดไว้ด้วยถ้าอีกทีมมี Nuker มากๆก็ให้รับจนเลือดเหลือง(เหลือครึ่งหลอด)แล้วถอยออกมารอใช้สกิล แต่ถ้าอีกทีม มีแต่พวก Damage Dealer ก็อาจจะรับจนเลือดแดงได้ เมื่อถอยออกมาก็ให้รอใช้สกิลอยู่ด้านหลังเพื่อนเราเมื่อใช้เสร็จก็ถอยลงมาอีก ส่วนเหยื่อที่เลือกตอนเลือดแดงก็ พยายามเลือกตัวที่อยู่ใกล้มือที่สุด เพราะถ้าคุณวิ่งเข้าไปใกล้ศัตรูมากก็มีโอกาสโดนสวนสกิลกลับมาจนตายได้
12. กลยุทธ์ในการหลอกล่อศัตรูให้มาติดกับทั้งทีม มีดังนี้
- ในกรณีที่เราเล่นเป็นตัวแท็งค์ที่ไม่มีสกิลสตันระยะไกล เช่น Axe หรือ Centaur แล้วมั่นใจว่ามีเลือดที่น่าจะเพียงพอต่อการล่อศัตรูได้ก็ให้ดันครีปในเลนไปเรื่อยๆ (เกินแม่น้ำ) แล้วสั่งเพื่อนให้หลบอยู่ข้างหลังเราในพื้นที่ๆมั่นใจว่าศัตรูจะมองไม่เห็น [มุมมองของศัตรู: ถ้าเห็นตัวใดที่ล้ำอาณาเขตเข้ามาก็จะเริ่มตรวจสอบฮีโร่ฝั่งตรงข้ามทันที ซึ่งในกรณีนี้ฝั่งเราอาจหายหมดทีม จึงทำให้ฝั่งศัตรูก็จะมาตรวจสอบที่ป่าด้านข้างของตัวเราที่ดันครีปอยู่เมื่อไม่เจอฮีโร่ทั้งหมดก็จะเข้ามารุมตุ๋ย] และเมื่อฮีโร่ อีกฝั่งได้มารุมตุ๋ยพร้อมกับใช้สกิลไปหมดแล้ว ก็ให้ตัวเราวิ่งย้อนไปข้างหลัง เพื่อให้เพื่อนเข้ามาช่วยโดยการสตันหรือสกัดตัวที่คิดจะมาฆ่าเราก่อน จากนั้นก็ให้เพื่อน ทั้งหมดที่แอบอยู่หลังครีปออกมารุมใช้สกิลใส่เป้าหมายได้เลย เนื่องจากศัตรูส่วนมากได้ใช้เวทออกไปเกือบหมดแล้วจึงทำให้ศัตรูไม่สามารถลงคอมโบสกิลต่อเนื่องได้
แถมยังต้องรอคูลดาวน์อีก จึงเป็นโอกาสให้ทีมเราทั้งหมดรุมใช้สกิลใส่ตัวที่เปราะบางได้
ซึ่งเทคนิคนี้ก็ถือเป็นหน้าที่ของตัวแท้งค์เหมือนกัน เพียงแต่การแท็งค์แบบนี้ต้องใช้การอ่านใจศัตรูบวกกลยุทธ์อีกนิดหน่อยและความพร้อมเพียงของทีมเป็นหลัก
- ในกรณีที่เราเล่นเป็นตัวแท็งค์ที่มีสกิลสตันระยะไกล เช่น Tide Hunter, Skelton King ก็ให้เพื่อนที่มีความเปราะบางที่สุดเป็นตัวดันในเลน เมื่อศัตรูเข้ามา ตรวจสอบที่ป่า ก็ให้เราเป็นตัวเปิดสกิลทั้งหมดจากนั้นก็ให้เพื่อนรีบฆ่าเมื่อฆ่าเสร็จก็รีบเผ่นกลับบ้าน(แต่ถ้ามันตายหมดก็ให้รีบบุกต่อ) เนื่องจากในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าทีมเราไม่มี ward ในบางครั้งเราลงสกิลไปหมดแล้วแต่ตัวที่ตามหลังมามันอาจไม่โดนสกิลที่เป็น aoe ของเรา ในเหตุการณ์เช่นนี้แนะนำว่าถ้าดูแล้วสถานการณ์เราได้เปรียบอยู่ก็ให้แท็งค์ต่อ แต่ถ้าทีมเราได้ใช้เวทมากเกินความจำเป็นในการฆ่าศัตรูก็ให้สั่งถอยกลับทันที
จากเทคนิคนี้จะเห็นได้ว่า การช่วงชิงจังหวะและช่วงเวลาที่ใช้ในการลอบฆ่าศัตรูนั้นก็มีความสำคัญสูงพอๆกับการช่วงชิงจังหวะตอนเวลา All เช่นกัน
13. ถ้าตัวยิงไกล(Damage Dealer)ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตัวแท็งค์ ให้ใช้วิธีดังนี้
- ไอเท็มที่เลือกใช้เพื่อความอยู่รอดทั้งหมดพยายามเลือกของที่ให้ดาเมจด้วย อย่าไปเลือกไอเท็มที่ให้แต่เลือดอย่างเดียวเช่น Vangaurd, Hood Of Defiance
เนื่องจากตัวยิงไกล(Damage Dealer) ในช่วงเลทเกมต้องใช้ดาเมจด้วยซึ่งจะต่างจากพวกนักเวทหรือตัวแท็งค์ที่บางครั้งก็ใช้แต่สกิลเพียงอย่างเดียว ลองคิดดูว่าถ้าคุณ
เล่น Sniper ที่มีแต่ Vanguard, Assault Cuirass, Heart เวลา All คุณจะไม่มีประโยชน์ต่อทีมเลยสุดท้ายเพื่อนร่วมทีมหรืออาจจะเป็นตัวแท็งค์เองก็ไม่สามารถทน ดาเมจจากทีมตรงข้ามได้
เนื่องจากคุณฆ่าศัตรูช้าเกินไป - ไอเท็มที่สายนี้ควรออกควรเป็นไอเท็มที่ใช้ลูกเล่นและให้ดาเมจไปในตัวเช่น Black King Bar, Manta Style, Lothar's Edge เป็นต้นลองคิดดูถ้า Sniper มีไอเท็ม 3 อย่างนี้บวกกับ รองเท้าเทเลพอร์ท Sange and Yasha รับรองครับว่าตัวที่จะฆ่าคุณเหนื่อยแน่กว่าจะเอาคุณลง ต้องจำไว้นะครับว่าถ้าคุณมีไอเท็มเพิ่มความอยู่รอดมากเท่าไรแล้วก็ต้องแลกกับความไร้ประโยชน์ของคุณมากเท่านั้น
- ส่วนจังหวะการเข้าโจมตีหรือเทคนิคต่างๆที่จะทำให้การประทะกันแบบ 5-5 แล้วประสบความสำเร็จนั้นจะกล่าวในเรื่องของ Damage Dealer
14. ถ้านักเวทต้องตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตัวแท็งค์
- การออกไอเท็มนั้นจะกว้างกว่าทุกสายคือสามารถออกไอเท็มได้หมดไม่ว่าจะเป็น BKB, เสกไก่, Vangaurd, Hearth, Lothar's Edge ซึ่งเราจะสามารถเลือกไอเท็มสำหรับการเอาตัวรอดได้หมดไม่ว่า จะอึด ถึก หรือลูกเล่นเยอะ หรือมีสกิลสกัดกั้นศัตรู เพราะส่วนมากการโจมตีของเราแรงได้ด้วยเวท
วิเคราะห์จากผู้แต่ง ผมจะเปรียบเทียบ Drow Ranger(agi) และ Wind Runner(int) ว่า 2 ตัวนี้แตกต่างกันอย่างไร
- Drow Ranger จะมีความสามารถในการสร้างดาเมจมากกว่า Wind Runner แต่ของที่ใช้เพื่อความอยู่รอดจะจำกัดกว่าอีกตัวจึงทำให้ความอยู่รอดต่ำกว่า และไอเท็มที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมเช่น เสกไก่ก็ออกไม่ได้ จึงทำให้บางครั้งตัวนี้ส่งผลต่อความมีประโยชน์ให้กับทีมน้อยกว่า
- Wind Runner จะสร้างดาเมจได้น้อยกว่า Drow Ranger แต่ถ้าเรื่องความอยู่รอดแล้วตัวนี้ดีกว่าอีกตัวแน่นอนเพราะสามารถออก เสกไก่ เกราะน้ำแข็ง cyclone ก็ได้หรือพวกวินวอกก็ได้ ส่วนเรื่องความมีประโยชน์ต่อทีม ตัวนี้จะมีความยืดหยุ่นกว่า Drow Ranger และบางครั้งก็สามารถช่วยทีมได้ดีกว่า ถ้าอีกทีมมี qop นก visage หรือตัวที่ฆ่ายาก เนื่องจากตัวนี้สามารถใช้ทั้งคฑาใบ้ เสกไก่ หรือจะเป็น dagon ก้ได้ ตัวนี้จึงสามารถช่วยทีมได้ดีกว่า
15. การสั่ง All ต้องดูความพร้อมดังนี้
- ถ้าเป็นทีมเราก็ให้ดูเลเวล สกิล คูลดาวน์ของตัวคีย์สำคัญของทีมว่าอยู่ในสถานการณ์พร้อมมั้ย(ส่วนมากจะเป็นพวกนักเวท) ถัดมาก็ดูคอมโบที่ทีมเราสามารถ ทำได้ แล้วก็ค่อยดูไอเท็ม และเลือดของทุกตัวในทีมเราว่าอยู่ในสถานการณ์พร้อมมั้ย และที่สำคัญให้ตรวจสอบเงินของเพื่อนร่วมทีมว่าในช่วงนั้นใกล้จะได้ไอเท็มหรือยัง ถ้ายังก็ให้มาช่วยทีมก่อน
- เมื่อเรารู้ความพร้อมของทีมเราแล้วก็ต้องพิจารณาทีมตรงข้ามโดยดูจาก คอมโบที่ศัตรูทั้งหมดสามารถทำได้ เลเวลของศัตรู ไอเท็มที่ศัตรูมี
เมื่อเราได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้วถ้าคอมโบหรือความพร้อมของทีมเราดีกว่าก็พยายามสั่ง All เพื่อกดดันศัตรูและสร้างความได้เปรียบให้กับทีมเรา
แต่ถ้าวิเคราะห์แล้วคอมโบหรือความพร้อมของศัตรูมีมากกว่าก็ให้พยายามลอบฆ่าให้ได้สัก 1 ตัวก่อนแล้วค่อยวิเคราะห์ข้อมูลอีกที แต่ถ้าหาโอกาสลอบฆ่าไม่ได้
ก็ปล่อยให้ทีมศัตรูทำลาย Tower ไปก่อนเพื่อที่จะได้ให้ทีมเราได้ฟาร์มกันอย่างเต็มที่แล้วค่อยมาแก้เกมกันในภายหลัง(จำไว้ว่าอย่าพาทีมไปตายล่ะ เพราะสถานการณ์
จะยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น)
16. ตัวแท็งค์ที่ดีต้องมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว เด็ดขาดและแม่นยำ นั้นหมายถึงเวลาที่เราจะให้จังหวะเพื่อนร่วมทีมต้องมีความเด็ดขาดไม่ว่าจะสั่งบุก หรือสั่งถอย
ไม่ใช่ว่าเวลาที่ต้อง All เรากลับวิ่งเข้า วิ่งถอย โลเลไม่มีความมั่นใจ(หรือที่เรียกว่าอาการยึกยักไปมา) เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้เพื่อนสับสนไม่รู้ว่าเราจะโจมตีหรือ
ตั้งรับ โดยเพื่อนที่อยู่ข้างตัวคุณจะคอยเช็คระดับการวิ่งของคุณอยู่ ในจังหวะที่คุณวิ่งไปในทิศทางของศัตรูจะทำให้เพื่อนตีความเป็น คุณสั่งบุก แต่ถ้าคุณวิ่งถอยออกเพื่อนก็จะตีความเป็นคุณไม่พร้อมที่จะบุก เพราะฉะนั้นตอน All ถ้าคุณวิ่งเข้าๆออกๆ จะสร้างความลำบากใจต่อการตัดสินใจของเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างมาก
17. ตัวแท็งค์ที่ดีต้องชิงจังหวะให้เป็น ในบางครั้งเราอาจจะเห็นเหยื่อหลบอยู่หลัง Tower หรือหลังครีป โดยให้เราเช็คความพร้อมของตัวเราทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเลือด สกิล ไอเท็ม เลวลของตัวเองและเพื่อนเราและศัตรู ถ้าเห็นว่าพร้อมและคิดว่าทีมเราได้เปรียบอยู่มากก็ให้โจมตีได้เลยไม่ต้องสนใจพวก Towerหรือครีป เนื่องจากการโจมตีในลักษณะนี้จะทำให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัวและเราสามารถฆ่าศัตรูได้ก่อนที่ Tower หรือครีปจะยิงเราตาย เพราะการโจมตีของครีปหรือ Tower เป็นการโจมตีธรรมดาแต่การชิงจังหวะของเราและเพื่อนส่วนมากจะเป็นการใช้สกิลจึงทำให้เราสามารถฆ่าศัตรูได้ก่อน แต่นั้นก็หมายความว่าคุณต้องคำนวณทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้ว
18. การป้องกันการโดนกดจากตัวยิงไกลช่วงต้นเกม เช่นคุณเล่น Sven แล้วอีกฝั่งเล่น Drow Ranger ให้คุณดูความแรง เลือด ไอเท็มเติมเลือดของตัวเราและศัตรูถ้าเราได้เปรียบกว่า ให้รอครีปประทะกันก่อนจากนั้นก็คลิ๊กไปยังพื้นที่ตรงไหนก็ได้ใกล้ศัตรู เมื่อมันวิ่งไปถึงจุดที่คลิ๊กแล้วก็ให้กดโจมตีศัตรู ซึ่งครีปที่ประทะกันอยู่ก็จะไม่โจมตีคุณแต่ถ้าคุณคลิ๊กโจมตีศัตรูเลยก็จะทำให้ขณะที่คุณวิ่งอยู่ครีปก็จะตอดคุณไปเรื่อยๆ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ในบางครั้งจะเปลี่ยนสถานะจากการโดนกดเป็นเรากดมันแทน
19. ให้ใช้สกิลทุกอย่างที่มีอยู่ปกป้องเพื่อนขณะตี Tower ในขณะที่คุณตีบ้านฝั่งศัตรูอยู่ศัตรูก็จะออกมากั้นบ้านให้คุณประเมินสถานการณ์ก่อนว่าในขณะนั้นทีมเรามีความได้เปรียบแค่ไหน ถ้าสถานการณ์มีความใกล้เคียงกัน ให้คุณเปลี่ยนมุมมองของคุณจากการบุกเป็นการป้องกันเพื่อนร่วมทีมและพยายามเน้นเป้าหมายหลักที่บ้านของศัตรูโดยให้ใช้สกิลทุกอย่างใส่ตัวที่เข้าใกล้เพื่อนที่เป็นตัวคีย์สำคัญ แต่ถ้าสถานการณ์เรามีความได้เปรียบอยู่มากก็ให้ฆ่าทีมมันก่อนแล้วค่อยเอาบ้านจะคุ้มกว่า แต่ก็ต้องดูให้ดีนะครับว่านั้นคือการล่อของศัตรูหรือเปล่าโดยเช็คจากระยะของตัวเราและศัตรู ถ้าเราวิ่งเข้าใส่ศัตรูแล้วศัตรูทั้งทีมวิ่งออกแถมพยายามรักษาระยะห่างไว้ก็ให้เปลี่ยนเป็นการโจมตีบ้านแทนการฆ่าศัตรู
20. ให้ศึกษาตัวละครที่คุณเล่นอยู่ให้ชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตสกิล วิธีการเล่น หรือไอเท็มที่ออก หรือสายที่สามารถเล่นได้ เช่น Tide Hunter เวลาเล่นบางคนต้องการให้คุณใช้อัลติเปิดโอกาสในการโจมตีแต่เมื่อคุณเล่นคุณกลับคิดแต่จะใช้อัลติให้โดนทุกตัว ทำให้ศัตรูชิงโอกาสลงคอมโบสกิลใส่เพื่อนร่วมทีมจนตายแล้ว คุณพึ่งมาใช้อัลติก็ไม่มีความหมายเพราะในบางครั้งเพื่อนอาจจะไม่ต้องการให้คุณใช้อัลติโดนทุกตัวแต่ต้องการเพียงให้คุณใช้อัลติเพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาเหล่านั้นได้ลงคอมโบต่อจากคุณเท่านั้น
วิธีการออกไอเท็มเพื่อความอยู่รอด ซึ่งไอเท็มทั้งหมดที่นำมาเสนอนี้จะเป็นไอเท็มสำหรับการเอาชีวิตรอดทั้งหมด โดยจะวิเคระห์ออกมาเพื่อใช้สำหรับ
ในแต่ละสถานการณ์ โดยผู้เขียนจะไม่บอกถึงไอเท็มประเภททำลายล้างอย่างเดียวเพราะ ผู้อ่านคงมีเกณฑ์การตัดสินใจเลือกใช้ไอเท็มเหล่านั้นอยู่แล้ว
(Bracer)
กำไรทอง สถานการณ์ที่ควรใช้: ในช่วงต้นเกมที่คุณยังไม่ค่อยมีเงิน กับสถานการณ์ที่ฮีโร่ตัวนั้นต้องใช้มานาและเลือดมากหรือตัวแท็งค์ที่แฝงไปด้วยคุณสมบัติอื่น เช่น Damage Dealer หรือ Nuker เป็นต้น ดังเช่น Night Stalker ช่วงต้นเกมต้องใช้มานาจำนวนมากและเลือดด้วยในการล่าเหยื่อ ถ้าคุณมี bracer 5 อันรับรองว่าช่วงต้นเกมคุณมีโอกาสล่าเหยื่อสำเร็จค่อนข้างสูงเพราะคุณจะมีทั้งเลือดและมานาเพียงพอใช้
ความคุ้มค่า: เป็นไอเท็มบวก Status ที่จัดว่าถูกสุดในเกม เพราะฉะนั้นสำหรับสาย Str ความคุ้มค่าจัดว่ามาก แต่ถ้าสายอื่นจัดว่า ค่อนข้างมาก
ข้อเสีย: เปลือง Slot
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: ไอเท็มนี้ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดและมานาได้อย่างเด่นชัดเมื่อใส่หลายอัน ซึ่งจะมีประโยชน์ในการไล่ฆ่ามากกว่าไอเท็มประเภท regen เพราะเวลาไล่ฆ่ากันการ regen ที่รวดเร็วจะสู้ไอเท็มที่เพิ่มปริมาณเลือดและมานาไม่ได้ และที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือถ้า Status มากก็ช่วยในการ regen ไวแต่ถ้า Status น้อยก็ regen ได้ช้า
(Vanguard)
โล่บล๊อก
สถานการณ์ที่ควรใช้: เหมาะสำหรับตัวที่เป็น Tanker อย่างเดียวไม่มีคุณสมบัติอื่นแฝงเช่น Axe, Centaur และในกรณีที่เจอ Nuker บ้างแต่ไม่เยอะ หรือจะออกไว้ฟาร์มครีปพร้อมกับแท็งค์บ้างก็ได้
สถานการณ์ที่ไม่ควรใช้: ถ้าอีกทีมมีพวก Nuker จำนวนมากๆให้ใช้ bkb ดีกว่า หรือถ้าสถานการณ์เข้าสู่เลทเกมไปแล้ว
ความคุ้มค่า: สำหรับสาย Str จัดว่า ค่อนข้างมาก สาย Agi จัดว่า น้อย สาย Int จัดว่า ปานกลาง
ข้อเสีย: เป็นไอเท็มที่ไม่เพิ่ม damage เลย แถมช่วงต้นเกมราคาทั้งหมดของไอเท็มชิ้นนี้ก็ถือว่ามีราคาสูงพอสมควร
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: เหมาะกับพวก Tanker และนักเวทอย่างเดียว ถ้าเป็นพวก Damage Dealer ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งเนื่องจาก การที่ไอเท็มชิ้นนี้ไม่ได้บวกดาเมจจึงทำให้คุณสูญเสียเอกลักษณ์ของการเป็นนักฆ่า จึงแนะนำให้ออกไอเท็มชิ้นอื่นดีกว่า
(Hood Of Defiance)
กันเวท
สถานการณ์ที่ควรใช้: เหมาะสำหรับตัวที่มีสกิลป้องกันเวทอยู่แล้วเช่น Anti-Mage, Viper เป็นต้น
ความคุ้มค่า: น้อยสำหรับทุกสาย
ข้อเสีย: เป็นไอเท็มที่ไม่บวกเลือดจึงทำให้ใช้ในสถานการณ์จริงได้ไม่ค่อยดี
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: ไอเท็มนี้มันไม่บวกเลือดแถมเวลาโดนโจมตีมันจะโดนทั้งสกิลและการโจมตีปกติ ซึ่งถ้าเทียบแล้ว Vanguard จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
(Assault Cuirass)
เกราะกระดูก สถานการณ์ที่ควรใช้: เหมาะที่จะใช้รับดาเมจจากพวกตัวเลทเกมทั้งหลาย
ความคุ้มค่า: ค่อนข้างมากสำหรับสายแท็งค์ ส่วนสายอืนจัดว่าน้อย
ข้อเสีย: ค่าส่วนผสมจัดว่าสูงมากและ Aura ที่ให้เพื่อนก็ถือว่าน้อย
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: ถ้าคุณไม่กลัวว่าต้องเปลือง slot แนะนำให้ใส่ plate mail 2 ตัวจะคุ้มกว่า แต่ถ้าคุณจะหวัง Aura จากไอเท็มนี้ให้ใส่ผ้าคลุมดูดเลือดจะคุ้มกว่า
(Shiva's Guard)
เกราะน้ำแข็ง สถานการณ์ที่ควรใช้: คือตัวเราต้องการเป็นสายซัพ โดยคนที่ใช้จะหวังคุณสมบัติน้ำแข็งที่เป็น Aoe ในการสร้างโอกาสให้เพื่อนและดาเมจจากน้ำแข็งมากกว่าคุณสมบัติของเกราะ
ความคุ้มค่า: สำหรับสาย Int จัดว่า ปานกลาง ส่วนสายอื่นจัดว่าค่อนข้างน้อย
ข้อเสีย: เนื่องจากใช้ mytic staff เป็นส่วนผลมจึงทำให้สายอื่นที่จะใช้ ต้องเสียเงินค่อนข้างมากและไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จาก mytic staff เท่าที่ควร
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: เป็นอีกไอเท็มหนึ่งที่ใช้เพิ่มเกราะแถมยังมีประโยชน์ต่อทีมที่เห็นได้ชัดกว่า Assault Cuirass
(Armlet Of Mordiggian)
มือลดเลือด สถานการณ์ที่ควรใช้: เหมาะกับตัวที่แท็งค์ที่เป็นสาย damage-dealer ไปด้วย
ความคุ้มค่า: สำหรับสาย Str จัดว่า มาก สายอื่นจัดว่า น้อย
ข้อเสีย: เป็นไอเท็มที่ลดเลือดไปเรื่อยๆถ้าเปิดใช้ไม่ดีทำให้คุณอาจซวยเพราะมันได้
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: เป็นไอเท็มที่ให้ str ในราคาที่ถูกกว่า hearth เหมาะกับตัว str ที่เป็น damage-dealerไปในตัวเช่น Night Stalker เป็นต้น
(Heart Of Tarrasque)
หัวใจใหญ่
สถานการณ์ที่ควรใช้: เป็นไอเท็มที่บวกเลือดได้เด่นชัดยิ่งถ้าสาย str ใส่ก็ได้ความแรงไปในตัว และถ้าคุณออกไอเท็มนี้ได้เร็วก็จะสามารถเป็นตัวแท็งค์ที่รับดาเมจจากพวก Nuker ได้ดีเลยล่ะ
ความคุ้มค่า: สำหรับสาย Str จัดว่า มาก สายอื่นจัดว่า ปานกลาง
ข้อเสีย: แพงและถ้าเจอ damage-dealer มากๆไอเท็มนี้จะรับมือไม่ไหว
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: เป็นไอเท็มที่เหมาะสำหรับตัวแท็งค์ใช้ได้เกือบทุกโอกาส แต่ถ้าเจอพวก damage-dealer มากๆให้ใช้ Satanic จะดีกว่า
(Satanic)
ดูดเลือดใหญ่ สถานการณ์ที่ควรใช้: เป็นไอเท็มที่บวกเลือดและเหมาะกับสาย str ใช้รับมือกับพวก damage-dealer ได้ดียิ่งถ้าศัตรูไม่มีพวก Stun-Disable คุณอาจรับมือจากการโดนรุมได้ 2-3 ตัวเลยเช่น Moon Raider, Sven เป็นต้น
ความคุ้มค่า: สำหรับสาย Str จัดว่า ค่อนข้างมาก สาย agi ปานกลาง สาย Int ค่อนข้างน้อย
ข้อเสีย: แพงและเจอ Nuker หรือพวก Stun-Disable มากๆจะดูดเลือดไม่ทัน
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: ถ้า Damage คุณแรงและเร็วก็ออกชิ้นนี้ถือว่าคุ้มหรือจะออกไอเท็มชิ้นนี้ต่อจาก Hearth ก็จัดว่าเป็น Tanker ที่ดีได้เลย
(Butterfly)
ดาบเขียว สถานการณ์ที่ควรใช้: เป็นไอเท็มสุดยอดของสาย agi แล้ว คนส่วนมากจะออกเพราะให้ความแรงและเร็วส่วนเรื่องหลบและเกราะก็ถือเป็นของแถมเนื่องจากเวลาใช้จริงการหลบก็ได้แค่ 30% ก็ยังไม่ถือว่าเยอะมาก
ความคุ้มค่า: สาย agi จัดว่ามาก ส่วน str ปานกลาง และ Int น้อย
ข้อเสีย: ไม่ได้บวกเลือดเลยเจอโดนรุมก็หลบไม่ทันชัวร์ให้ออก Statnic ยังจะดีกว่า
วิเคราะห์จากผู้แต่ง: นอกจากสาย agi ที่ใช้แล้วเหมาะก็มีสาย damage-dealer ตัวอื่นๆก็ใช้ได้ เช่น Night stalker เป็นต้นเพราะเวทใบ้ของ night มีผลต่อการ miss ของศัตรูด้วยยิ่งถ้า phantom ass เจอเข้าไปก็มีลุ้นเหม